วันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2557

ชีวประวัติของ "พ.ท.หญิง ลัดดา แทมมี่ ดักดวิร์ธ"

พันโทหญิงลัดดา แทมมี ดักเวิร์ธ วัย 44 ปี สร้างประวัติศาสตร์เป็นชาวไทยเชื้อสานอเมริกันคนแรก ที่ชนะการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ( ส.ส. ) โดยสามารถคว้าเก้าอี้ในเขตเลือกตั้งที่ 8 ของรัฐอิลลินอยส์ได้สำเร็จ เอาชนะนายโจ วอลช์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน ซึ่งเป็นแชมป์เก่าอย่างขาดลอย ซึ่งพท.หญิงลัดดาประกาศขอเป็นกระบอกเสียงให้แก่สตรีเชื้อสายเอเชีย ทหารผ่านศึก และกลุ่มผู้อพยพในพื้นที่
สำหรับชีวประวัติโดยย่อของ พ.ท.หญิงลัดดา เธอเกิดเมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2511 ที่กรุงเทพฯ เป็นบุตรของนายแฟรงค์ แอล. ดักเวิร์ธ ซึ่งเป็นทหารผ่านศึก และนางละไม ( สมพรไพลิน ) ดักเวิร์ธ ช่วงชีวิตในวัยเด็กของพ.ท.หญิงลัดดาค่อนข้างต่างจากเด็กทั่วไป เนื่องจากเธอต้องย้ายถิ่นฐานไปยังหลายประเทศ ส่วนใหญ่ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตามหน้าที่การงานของผู้เป็นบิดา ซึ่งเกี่ยวข้องกับสายงานทางทหาร
อย่างไรก็ตาม ครอบครัวของพ.ท.หญิงลัดดาตัดสินใจตั้งรกรากที่รัฐฮาวาย ขณะที่เธอมีอายุได้ 16 ปี ซึ่งพ.ท.หญิงลัดดาได้เข้าศึกษาระดับมัธยมศึกษาที่นี่ ก่อนจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยฮาวาย ตามด้วยปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน ในกรุงวอชิงตัน ปัจจุบันพ.ท.หญิงลัดดากำลังศึกษาระดับปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยนอร์ทอีสเทิร์นอิลลินอยส์ ในเมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์
ส่วนประวัติการเข้ารับราชการทหารนั้น พ.ท.หญิงลัดดาเข้าร่วมกองทัพสหรัฐ เมื่อปี 2535 สังกัดกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิแห่งรัฐอิลลินอยส์ ปฏิบัติหน้าที่ผู้ช่วยนักบินเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งเธอได้ร่วมออกรบในสงครามอิรัก เมื่อปี 2547 แต่กลับถูกยิงโจมตีขณะบินออกลาดตะเวน ทำให้เธอต้องสูญเสียแขนขวา และขาทั้ง 2 ข้าง อย่างไรก็ตาม แพทย์สามารถต่อแขนขวาคืนให้แก่เธอได้ แต่เธอต้องใส่ขาเทียม และใช้ชีวิตส่วนใหญ่บนรถเข็น ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
แม้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะทำให้พ.ท.หญิงลัดดา ไม่สามารถออกปฏิบัติภารกิจภาคสนามได้อีก แต่เธอเริ่มอุทิศตนทำงานการกุศลเพื่อทหารผ่านศึกในสหรัฐ พร้อมกับตัดสินใจเบนเข็มสู่เส้นทางการเมือง ด้วยการสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคเดโมแครต และได้รับคัดเลือกให้เป็นตัวแทนของพรรค ลงสมัครชิงตำแหน่ง ส.ส. เขต 6 รัฐอิลลินอยส์ เมื่อปี 2549 ทว่ากลับพ่ายแพ้อย่างฉิวเฉียดให้แก่ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน ก่อนที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา จะทาบทามให้เธอเข้าดำรงตำแหน่งผู้ช่วยรมว.กระทรวงกิจการทหารผ่านศึก ระหว่างปี 2549-2552
ทั้งนี้ ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 2012 เมื่อวันที่ 6 พ.ย. ซึ่งมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ( ส.ส. )  และสมาชิกวุฒิสภา ( ส.ว. ) ร่วมด้วย พ.ท.หญิงลัดดา ได้เป็นตัวแทนของพรรคเดโมแครต ลงชิงชัยเก้าอี้ ส.ส.อีกครั้ง แต่ในคราวนี้ย้ายมาลงในเขต 8 ขับเคี่ยวกับนายโจ วอลช์ แชมป์เก่าจากพรรครีพับลิกัน หนึ่งในสมาชิกกลุ่ม “ที ปาร์ตี้” ที่มีอิทธิพลสูงมากในพรรครีพับลิกัน มีเงินทุนสนับสนุนจำนวนมหาศาล และทำโฆษณาทางโทรทัศน์โจมตีพ.ท.หญิงลัดดาตลอดช่วงการหาเสียง
อย่างไรก็ตาม พ.ท.หญิงลัดดากลับไม่ย่อท้อต่อการโจมตีของคู่ต่อสู้ แต่เดินหน้าหาเสียงอย่างแข็งขัน ตลอดระยะเวลาการเดินสายรณรงค์หาเสียง เธอได้รับการสนับสนุนอย่างท่วมท้น ทั้งจากชาวไทยในรัฐอิลลินอยส์ ที่แม้จะไม่ได้อยู่ในเขตที่เธอลงสมัคร แต่ก็ร่วมกันบริจาคเงินสนับสนุนจำนวนมาก รวมถึงชาวกลุ่มชาวเอเชีย โดยเฉพาะชาวลาว ที่ทราบข่าวการลงสมัครอีกครั้งของเธอ ก็ต่างร่วมบริจาคเงินเป็นทุนหาเสียงให้เธอเช่นกัน ทำให้พ.ท.หญิงลัดดาสามารถระดมทุนหาเสียงได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งเธอให้คำมั่นตลอดการหาเสียงว่า จะนำเงินบริจาคที่ได้รับไปใช้อย่างเป็นประโยชน์ และคุ้มค่าที่สุด  และจะขอเป็นตัวแทนของสตรีเชื้อสายเอเชียทุกคน หากชนะการเลือกตั้ง
และผลการเลือกตั้งที่ออกมา ปรากฏว่าเธอสามารถเอาชนะวอลช์ ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 55-45% หรือ 120,774 ต่อ 99,922 สร้างประวัติศาสตร์เป็นสตรีเชื้อสายไทยคนแรก ที่สามารถเข้าไปนั่งในสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐได้อย่างเต็มภาคภูมิ
ปัจจุบัน พ.ท.หญิงลัดดาสมรสแล้ว กับนายไบรอัน โบลสบีย์ เธอยืนยันมาโดยตลอดว่า สามารถสื่อสารด้วยภาษาไทยได้ดีไม่แพ้ภาษาอังกฤษ.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น