10 สิ่งก่อสร้างที่สวยที่สุดในโลกปี 2011

10. TWA FLIGHT CENTER, John F. Kennedy Airport, Queens, New York, US

ศูนย์การบิน TWA สร้างขึ้นโดย Eero Saarinen สถานที่แห่งนี้เป็นตัวแทนของความทันสมัยของการท่องเที่ยว ที่อเมริกันแอร์จัดให้ คุณอาจได้เห็นสถานที่แห่งนี้ในภาพยนตร์เรื่อง Catch Me If You Can

9. Wiblingen Abbey Library, Ulm, Badem-Wurttemberg Province, Germany

ห้องสมุด Wiblingen Abbey เป็นศิลปะแบบโรโคโค ถ้าคุณได้เห็นและสัมผัสห้องสมุดแห่งนี้ คุณอาจไม่เชื่อสายตาคุณเพราะมันยิ่งใหญ่และหรูหรามาก

8. Golden Pavilion, Kyoto, Honshu Island, Japan

เมื่อคุณมองไปที่ โกลเด้นพาวิลเลี่ยน คุณจะรู้สึกเหมือนใบไม้สีทองรายล้อมอยู่รอบอาคาร อาคารนี้ถูกล้อมรอบด้วยสระว่ายน้ำ (หรือเรียกว่าบ่อกระจก) ถ้าคุณได้มา ณ สถานที่แห่งนี้คุณจะผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก

7. Jantar Mantar, Jaipur, Rajasthan, India

นี้เป็นท้องฟ้าจำลองของศตวรรษที่ 17 มีบทบาทสำคัญในการทำนายเหตุการณ์ทางดาราศาสตร์และอุตุนิยมวิทยา

6. 30 St. Mary Axe, London, United Kingdom

ตึกระฟ้าที่มีลักษณะเหมือนจรวด ตั้งอยู่ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ บางคนไม่ชอบการออกแบบที่แปลกประหลาดของอาคารนี้ แต่สำหรับบางคนก็ชอบในความยิ่งใหญ่เพราะมันสูงเป็นสามเท่าของน้ำตกไนแองการา สำหรับใครที่กลัวความสูงแนะนำว่าไม่เหมาะที่จะไปเยี่ยมชม *-*

5. Opera de Arame, Curitiba, Parama, Brazil

Opera de Arame สร้างจากเสาเหล็กโปร่งใสจำนวนมากมาย โรงละครแห่งนี้ยังอยู่ในเหตุการณ์สำคัญๆของประเทศบาซิลอีกด้วย

4. Majolica House, wina, Austra

อาคารนี้ดูแปลกตา โดดเด่นและน่าตื่นตาตื่น ออกแบบโดย  Otto Wagner สถาปนิกและนักวางผังเมืองชื่อดัง ของกรุงเวียนนา Majolica House  ถือเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นเอกที่ได้จากการเคลื่อนไหวของอาร์ตนูโว

3. Shwedagon Pagoda, Yangon, Myanmar

ชเว คือ ทอง ส่วน ดากอง คือชื่อเดิมของเมืองย่างกุ้ง สมัยที่พระเจ้าอลองพญาสถาปนาเมืองเล็กริมฝั่งแม่น้ำแห่งนี้ขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2298 กล่าวกันว่า ทอง แห่งมหาเจดีย์มหาศาลกว่าทองในธนาคารแห่งอังกฤษ ซึ่งน้อยคนปฏิเสธความเป็นไปได้

2. Hoover Dam, Black Canyon, Colorado River, US

มหัศจรรย์ของสถาปัตยกรรมที่ทันสมัย พื้นทำจากสถาปัตยกรรมอินเดียผสมผสานกับความเรียบง่ายได้อย่างลงตัว ตั้งอยู่ระหว่างรัฐอริโซน่าและเนวาดา

1. Mequita de Cardoba, Kardoba, Spain

นี้คือโบสท์ที่ก่อนหน้านี้เคยเป็นมัสยิดมาก่อน ใช้เวลาในการสร้างยาวนานกว่าสองศตวรรษ สร้างจากกระเบื้องโมเสค นิลและหินอ่อน ชิ้นเอก! 

เลโอนาร์โด ดา วินชี

   

      

        ประวัติ

    เลโอนาร์โด เกิดเมื่อวันที่ 15 เมษายน โดยที่ที่เขาเกิดอยู่ห่างจากหมู่บ้านวินชี ในประเทศอิตาลีไปราวสองกิโลเมตร บิดาชื่อนายแซร์ ปีเอโร ดา วินชี เป็นเจ้าพนักงานรับรองเอกสารของรัฐ มารดาชื่อคาตารีนา เป็นสาวชาวนา เคยมีคนอ้างว่านางคาตารีนาเป็นทาสสาวจากประเทศแถบตะวันออกในครอบครองของปีเอโร แต่ก็ไม่มีหลักฐานเด่นชัด

ในสมัยนั้นยังไม่มีมาตรฐานการเรียกชื่อและนามสกุลที่เป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลายในทวีปยุโรป ทำให้ชื่อและนามสกุลของดา วินชี ที่แท้จริงคือ เลโอนาร์โด ดิ แซร์ ปีเอโร ดา วินชี ซึ่งหมายความว่า เลโอนาร์โด บุตรชายของปีเอโร แห่ง วินชี แต่เลโอนาร์โดเองก็มักจะลงลายเซ็นในงานของเขาอย่างง่ายๆว่า เลโอนาร์โด หรือไม่ก็ ข้าเอง เลโอนาร์โด เอกสารสำคัญส่วนใหญ่ระบุว่าผลงานของเขาเป็นของ เลโอนาร์โด โดยไม่มี ดา วินชี พ่วงท้าย ทำให้เข้าใจได้ว่าเขาไม่ได้ใช้นามสกุลของบิดาเนื่องจากเป็นบุตรนอกสมรสนั่นเอง

แกลเลอรี

• 

  ภาพเหมือนตัวเอง
 
• 

  นักบุญจอห์น/เทพบาคคัส(นักบุญจอห์นแบ็พทิสต์) (Saint John in the Wilderness Bacchus)
 
• 

  พระเยซูรับศีลจุ่ม (vers 1475-1478)
 
• 

  ภาพเหมือนนักดนตรี(Portrait of a Musician) (v. 1490)
 
• 

  นักบุญเจอโรมในป่า(Saint Jerome) (v. 1480-1482)
 
• 

  การชื่นชมของแมไจ(The Adoration of the Magi) (v. 1481-1482)
 
• 

  La belle Ferronière(v. 1483-1490)
 
• 

  ภาพเหมือนล้อเลียน
 
• 

  นักบุญจอห์นแบ็พทิสต์(Saint John the Baptist) (v. 1513-1516)
 
• 

  ศึกษาตัวอ่อนมนุษย์ (Studies of embryos) (v.1509-1514)
 
• 

  ภาพสเก็ตช์อาคาร
 
• 

  ภาพสเก็ตช์ทหารสามหมวกเกราะ (Profile of a warrior in helmet)
 
• 

  โมนาลิซ่า ภาพวาดที่อาจจะมีชื่อเสียงที่สุดในโลก
 
• 

  ภาพกายวิภาคที่ก้าวล้ำยุคสมัยไปมาก ที่เรารู้จักกันในนามของ "วิทรูเวียนแมน" (Vitruvian Man)
 
• 

  พระกระยาหารมื้อสุดท้าย(The Last Supper) (1498)

Ma Journée


Je  me lave à 7h. Je blosse les dents. Je prends mon petit déjeuner avec mes parents. Je me douche. Je joue l'ordinateur. Je prends de bus. Le soir, mes parents et moi dînons. Mes parents regardent la télévision. Je me couche tard, à 1h.

วิธีทำ Macaroon ขนมเด็ดจากฝรั่งเศส

ส่วนผสม

- ผงอัลมอนด์ 300 กรัม

- น้ำตาลไอซิ่ง 300 กรัม

- ไข่ขาว (1) 110 กรัม

- น้ำตาลทราย 300 กรัม

- น้ำเปล่า 75 กรัม

- ไข่ขาว (2) 110 กรัม

- สีผสมอาหารสีต่าง ๆ เช่น สีชมพู สีแดง สีเหลือง ฯลฯ

วิธีทำ

1. ใส่ผงอัลมอนด์กับน้ำตาลไอซิ่งลงในโถปั่น ปั่นจนละเอียดแล้วร่อนลงอ่างผสม เตรียมไว้

2. เติมไข่ขาว (1) ลงผสมกับส่วนผสมในข้อที่ 1 คนให้เข้ากัน เติมสีผสมอาหารตามชอบ คนให้เข้ากันอีกครั้งพักไว้

3. ต้มน้ำตาลทรายกับน้ำเปล่าให้เดือดที ่อุณหภูมิ 118 องศาเซลเซียส ขณะที่ต้มให้ตีไข่ขาว (2) ด้วยหัวตีตะกร้อโดยใช้ความเร็วสูงสุด พอไข่เริ่มขึ้นฟูค่อย ๆ เติมน้ำเชื่อมที่ต้มจนได้ที่ลงผสม ตีต่อจนไข่ขึ้นฟูตั้งยอด

4. นำส่วนผสมในข้อที ่ 3 ลงผสมกับส่วนผสมในข้อที่ 2 ตะล่อมเบา ๆ ด้วยตะกร้อมือจนส่วนผสมเข้ากันดี

5. บีบส่วนผสมที่ได้ลงบนถาดอบที่ทาด้วยเนยขาวและปูกระดาษไขให้เป็นรูปวงกลมขนาดตามต้องการ นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส ประมาณ 12 นาที หรือจนสุก นำออกจากเตาอบ แซะออกจากถาดพักไว้บนตะแกรงให้เย็นสนิท แล้วจึงทาด้วย Buttercream บาง ๆ แล้วนำมาประกบติดกัน

ส่วนผสม Buttercream

- น้ำตาลทราย 500 กรัม

- น้ำเปล่า 125 กรัม

- กลูโคส (แบะแซ) 25 กรัม

- เกลือป่น 10 กรัม

- ไข่ขาว 250 กรัม

- เนยสดชนิดจืดหั่นเป็นชิ้นเล็ก 1,000 กรัม

วิธีทำ

1. ใส่น้ำตาลทราย น้ำเปล่า กลูโคส และเกลือป่นลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งไฟต้มให้เดือดที่อุณหภูมิ 120 องศาเซลเซียส

2. ตีไข่ขาวด้วยหัวตีตะกร้อโดยใช้ความเร็วสูงสุดจนไข่เริ่มขึ้นฟู ค่อย ๆ ใส่น้ำเชื่อมในข้อที่ 1 ลงผสมตีต่อจนไข่ขาวเย็นสนิท

3. เติมเนยสดลงผสม ตีต่อจนส่วนผสมขึ้นฟูเป็นครีมจึงนำไปใช้