วันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2557

3 เรื่องน่ารู้ วัยรุ่นที่ชอบ กินอาหารตอนดึก

อาหารมื้อดึก นั้น เรียกได้ว่าเป็นมื้อที่ สาวๆจะกลัวเป็นพิเศษ (หนุ่มๆก็คงจะไม่กลัวเท่าไหร่ ใช่ป๊ะ!?) เพราะเคยได้ยินมาใช่ไหมล่ะว่ากินอาหามื้อดึก แล้วนอนก็จะทำให้?อ้วน โธ่ .. สาวๆจ๋า teen.mthai เชื่อเลยว่า ถึงกลัวแค่ไหน สาวๆส่วนหนึ่งก็ต้องแอบย่องไปหาตู้เย็นทุกที พอกินเสร็จถึงจะมานั่งเครียดต่อว่า “ไม่น่ากินเลย อ้วนแน่ๆ” อย่าเถียงนะว่าไม่จริง ^^ งั้นลองมาอ่าน 3 เรื่องน่ารู้ วัยรุ่นที่ชอบ กินอาหารตอนดึก?กันก่อนดีกว่า …
ความอ้วน อาหารเย็น มื้อดึก

เรื่องน่ารู้ วัยรุ่นที่ชอบ กินอาหารตอนดึก

เรื่องน่ารู้ วัยรุ่นที่ชอบ กินอาหารตอนดึก :?1. อย่ามัวแต่หัวโบราณเชื่องมงายอยู่กับความเชื่อที่ผิด ๆ?ว่าการรับประทานอาหารในช่วงดึก จะอ้วนมากกว่าการรับประทานอาหารในระหว่างวัน เพราะถ้าหากในแต่ละวันคุณรับประทานจุบจิบทั้งวัน รับรองได้ค่ะว่าไม่มีทางที่คุณจะไม่อ้วน นอกจากคุณจะมีระบบเผาผลาญที่ดีมากกว่าคนปกติ เราไม่ได้วัดการดูดซึมของระบบย่อยอาหารเป็นเวลา แต่เราวัดค่าความอ้วนหรือไขมันส่วนเกินจากไขมันและจำนวนแคลอรีในแต่ละวันที่ได้รับมากกว่า และเวลาไม่เคยบ่งชี้ว่าเวลาไหนดูดซึมได้มากกว่ากัน
เรื่องน่ารู้ วัยรุ่นที่ชอบ กินอาหารตอนดึก :? 2. ปรับลักษณะนิสัยการกิน?การห้ามใจเริ่มจากตัวเรา เพราะทุก ๆ ครั้งที่เรารับประทานอาหารก็ไม่ได้มีใครเอาปืนมาจี้ว่าเราต้องรับประทานเพียงแค่คุณรู้จักอิ่มและหักห้ามใจ ไม่ปล่อยหรือรับประทานอย่างตามใจปาก ควรที่จะตรวจดูปริมาณแคลอรีข้างซองหรือฉลากด้วย
เรื่องน่ารู้ วัยรุ่นที่ชอบ กินอาหารตอนดึก :? 3. ปรับเวลารับประทานอาหารและอาหารว่างที่เหมาะสม?การรับประทานอาหารต้องเป็นไปตามปริมาณที่ร่างกายเราต้องการ เพื่อให้สมองของเราว่องไว ตื่นตัวและไม่หิว รวมทั้งรับประทานอาหารว่างที่ดีต่อสุขภาพ เมื่อรู้สึกว่าอยากรับประทานอะไรสักอย่าง เช่น ผลไม้ ธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสี เพื่อรักษาระดับของน้ำตาลในเลือด โปรตีนเชคและผลไม้ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการเริ่มต้น

ชีวประวัติของ "พ.ท.หญิง ลัดดา แทมมี่ ดักดวิร์ธ"

พันโทหญิงลัดดา แทมมี ดักเวิร์ธ วัย 44 ปี สร้างประวัติศาสตร์เป็นชาวไทยเชื้อสานอเมริกันคนแรก ที่ชนะการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ( ส.ส. ) โดยสามารถคว้าเก้าอี้ในเขตเลือกตั้งที่ 8 ของรัฐอิลลินอยส์ได้สำเร็จ เอาชนะนายโจ วอลช์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน ซึ่งเป็นแชมป์เก่าอย่างขาดลอย ซึ่งพท.หญิงลัดดาประกาศขอเป็นกระบอกเสียงให้แก่สตรีเชื้อสายเอเชีย ทหารผ่านศึก และกลุ่มผู้อพยพในพื้นที่
สำหรับชีวประวัติโดยย่อของ พ.ท.หญิงลัดดา เธอเกิดเมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2511 ที่กรุงเทพฯ เป็นบุตรของนายแฟรงค์ แอล. ดักเวิร์ธ ซึ่งเป็นทหารผ่านศึก และนางละไม ( สมพรไพลิน ) ดักเวิร์ธ ช่วงชีวิตในวัยเด็กของพ.ท.หญิงลัดดาค่อนข้างต่างจากเด็กทั่วไป เนื่องจากเธอต้องย้ายถิ่นฐานไปยังหลายประเทศ ส่วนใหญ่ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตามหน้าที่การงานของผู้เป็นบิดา ซึ่งเกี่ยวข้องกับสายงานทางทหาร
อย่างไรก็ตาม ครอบครัวของพ.ท.หญิงลัดดาตัดสินใจตั้งรกรากที่รัฐฮาวาย ขณะที่เธอมีอายุได้ 16 ปี ซึ่งพ.ท.หญิงลัดดาได้เข้าศึกษาระดับมัธยมศึกษาที่นี่ ก่อนจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยฮาวาย ตามด้วยปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน ในกรุงวอชิงตัน ปัจจุบันพ.ท.หญิงลัดดากำลังศึกษาระดับปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยนอร์ทอีสเทิร์นอิลลินอยส์ ในเมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์
ส่วนประวัติการเข้ารับราชการทหารนั้น พ.ท.หญิงลัดดาเข้าร่วมกองทัพสหรัฐ เมื่อปี 2535 สังกัดกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิแห่งรัฐอิลลินอยส์ ปฏิบัติหน้าที่ผู้ช่วยนักบินเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งเธอได้ร่วมออกรบในสงครามอิรัก เมื่อปี 2547 แต่กลับถูกยิงโจมตีขณะบินออกลาดตะเวน ทำให้เธอต้องสูญเสียแขนขวา และขาทั้ง 2 ข้าง อย่างไรก็ตาม แพทย์สามารถต่อแขนขวาคืนให้แก่เธอได้ แต่เธอต้องใส่ขาเทียม และใช้ชีวิตส่วนใหญ่บนรถเข็น ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
แม้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะทำให้พ.ท.หญิงลัดดา ไม่สามารถออกปฏิบัติภารกิจภาคสนามได้อีก แต่เธอเริ่มอุทิศตนทำงานการกุศลเพื่อทหารผ่านศึกในสหรัฐ พร้อมกับตัดสินใจเบนเข็มสู่เส้นทางการเมือง ด้วยการสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคเดโมแครต และได้รับคัดเลือกให้เป็นตัวแทนของพรรค ลงสมัครชิงตำแหน่ง ส.ส. เขต 6 รัฐอิลลินอยส์ เมื่อปี 2549 ทว่ากลับพ่ายแพ้อย่างฉิวเฉียดให้แก่ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน ก่อนที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา จะทาบทามให้เธอเข้าดำรงตำแหน่งผู้ช่วยรมว.กระทรวงกิจการทหารผ่านศึก ระหว่างปี 2549-2552
ทั้งนี้ ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 2012 เมื่อวันที่ 6 พ.ย. ซึ่งมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ( ส.ส. )  และสมาชิกวุฒิสภา ( ส.ว. ) ร่วมด้วย พ.ท.หญิงลัดดา ได้เป็นตัวแทนของพรรคเดโมแครต ลงชิงชัยเก้าอี้ ส.ส.อีกครั้ง แต่ในคราวนี้ย้ายมาลงในเขต 8 ขับเคี่ยวกับนายโจ วอลช์ แชมป์เก่าจากพรรครีพับลิกัน หนึ่งในสมาชิกกลุ่ม “ที ปาร์ตี้” ที่มีอิทธิพลสูงมากในพรรครีพับลิกัน มีเงินทุนสนับสนุนจำนวนมหาศาล และทำโฆษณาทางโทรทัศน์โจมตีพ.ท.หญิงลัดดาตลอดช่วงการหาเสียง
อย่างไรก็ตาม พ.ท.หญิงลัดดากลับไม่ย่อท้อต่อการโจมตีของคู่ต่อสู้ แต่เดินหน้าหาเสียงอย่างแข็งขัน ตลอดระยะเวลาการเดินสายรณรงค์หาเสียง เธอได้รับการสนับสนุนอย่างท่วมท้น ทั้งจากชาวไทยในรัฐอิลลินอยส์ ที่แม้จะไม่ได้อยู่ในเขตที่เธอลงสมัคร แต่ก็ร่วมกันบริจาคเงินสนับสนุนจำนวนมาก รวมถึงชาวกลุ่มชาวเอเชีย โดยเฉพาะชาวลาว ที่ทราบข่าวการลงสมัครอีกครั้งของเธอ ก็ต่างร่วมบริจาคเงินเป็นทุนหาเสียงให้เธอเช่นกัน ทำให้พ.ท.หญิงลัดดาสามารถระดมทุนหาเสียงได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งเธอให้คำมั่นตลอดการหาเสียงว่า จะนำเงินบริจาคที่ได้รับไปใช้อย่างเป็นประโยชน์ และคุ้มค่าที่สุด  และจะขอเป็นตัวแทนของสตรีเชื้อสายเอเชียทุกคน หากชนะการเลือกตั้ง
และผลการเลือกตั้งที่ออกมา ปรากฏว่าเธอสามารถเอาชนะวอลช์ ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 55-45% หรือ 120,774 ต่อ 99,922 สร้างประวัติศาสตร์เป็นสตรีเชื้อสายไทยคนแรก ที่สามารถเข้าไปนั่งในสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐได้อย่างเต็มภาคภูมิ
ปัจจุบัน พ.ท.หญิงลัดดาสมรสแล้ว กับนายไบรอัน โบลสบีย์ เธอยืนยันมาโดยตลอดว่า สามารถสื่อสารด้วยภาษาไทยได้ดีไม่แพ้ภาษาอังกฤษ.

งานนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ ยอดเขาคิชฌกูฏ ปี 2557

สำหรับปี 2557 งานนมัสการปิดทอง ทางจังหวัดจันทบุรีได้กำหนดเปิดให้พุทธศาสนิกชน ประชาชน และนักท่องเที่ยวขึ้นไป นมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ ตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม - 30 มีนาคม 2557 เป็นเวลา 60 วัน โดยมีรถยนต์บริการรับ-ส่ง ขึ้น-ลงเขา หรือเดินเท้าขึ้น-ลงเขาได้ตลอด 24 ชั่วโมง และกำหนดพิธีบวงสรวงปิดป่าเปิดเขาในวันพุธที่ 29 มกราคม 2557 ณ สันเขื่อนพลวง เวลา 08.00 น.
แต่ก่อนจะเดินทางไป งานนมัสการปิดทองรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ  เรามาทำความรู้จักสถานที่แห่งนี้กันสักหน่อยก่อนดีกว่า ยอดเขาคิชฌกูฎ เป็นยอดเขาที่มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,000 เมตร เป็นสถานที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทที่สูงที่สุดในประเทศไทย ที่รู้จักกันดีในชื่อ รอยพระพุทธบาทพลวง หรือ พระบาทพลวง สถานที่ซึ่งพุทธศาสนิกชนต่างศรัทธา และเชื่อว่า หากได้เดินขึ้นไปนมัสการ รอยพระพุทธบาทพลวง บนยอดเขาคิชฌกูฎจะได้บุญอันใหญ่หลวง แล้วสามารถขอพรได้หนึ่งข้อ โดยส่วนใหญ่ผู้ที่ไปขอพรทุกคนก็มักจะประสบความสำเร็จดังใจหวัง จึงทำให้มีผู้เลื่อมใส และศรัทธาเดินทางมาสักการะไม่ขาดสาย
ในทุกๆ ปี ระหว่างวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 3 จนถึงแรม 15 ค่ำ เดือน 4 สถานที่สำคัญแห่งนี้จะเปิดให้ประชาชนขึ้นไปนมัสการปิดทองรอยพระพุทธบาทตลอดทั้งวันทั้งคืน หากใครได้ไปเยือนในช่วงนั้นก็จะได้เห็นพุทธศาสนิกชน ประชาชน และนักท่องเที่ยว ต่างพากันถือดอกดาวเรืองสีเหลืองอร่ามมาโปรยตามทางเดินขึ้นเขา ด้วยเชื่อว่า เส้นทางที่พวกเขากำลังจะเดินขึ้นไปเป็นเส้นทางสวรรค์ หากมีการนำดอกไม้ที่ชื่อมงคลอย่างดอกดาวเรืองมาโปรย ก็จะทำให้ชีวิตมีแต่ความเจริญรุ่งเรืองอีกด้วย 
รอยพระพุทธบาทพลวง หรือรอยพระบาทพลวง มีขนาดกว้าง 1 เมตร ยาว 2 เมตร และใกล้ๆ กับรอยพระพุทธบาททางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ ยังมีหินกลมก้อนใหญ่ริมหน้าผา ที่เราเรียกกันว่า หินลูกพระบาท ตั้งเด่นเป็นสง่าชวนน่าอัศจรรย์ และเมื่อมองไปรอบๆ ก็จะเห็นทิวทัศน์ของ อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฎ ที่ครอบคลุมอำเภอมะขามและอำเภอเขาคิชฌกูฎ ซึ่งผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ และเป็นอุทยานต้นน้ำสำคัญของจังหวัดจันทบุรี และมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่ง เช่น น้ำตกกระทิง น้ำตกคลิงช้างเซ น้ำตกคลองกระสือ เป็นต้น
รอยพระพุทธบาทพลวง
การเดินทางขึ้นไปนมัสการ รอยพระพุทธบาทพลวง หรือ พระบาทพลวง เริ่มต้นจากการนั่งรถบริการที่วัดพลวงไปตามถนนลูกรังที่ลาดชัดและคดเคี้ยวมาก ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร จากนั้นต้องเดินขึ้นเขาไปอีกประมาณ 1.2 กิโลเมตร หากไปในช่วงงานนมัสการปิดทองรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏประมาณตรุษจีน -วันมาฆบูชาของทุกปี จะมีประชาชนขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาททั้งวันทั้งคืน สำหรับนักท่องเที่ยวท่านไหนที่รู้สึกว่าสุขภาพร่างกายไม่พร้อม หรือเดินไม่ไหว แต่ใจพร้อม บริเวณทางขึ้นเขาก็ร้านไม้เท้าให้เช่าสำหรับช่วยค้ำเดินขึ้น ในราคาอันละ 5 บาท และบริการแคร่หามในราคาเที่ยวละประมาณ 400 บาท
รอยพระพุทธบาทพลวง
หากมีโอกาสลองแวะไป นมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง กันสักครั้งนะครับ เพราะนอกจากจะได้อิ่มอกอิ่มใจกับการทำบุญแล้ว ยังได้ความเพลิดเพลินสนุกสนานจากการท่องเที่ยวอีกด้วย
Tip: ตำนานรอยพระพุทธบาทพลวง รอยพระพุทธบาทพลวง หรือรอยพระบาทพลวง ตามประวัติกล่าวว่า ได้ค้นพบเมื่อประมาณปีพ.ศ.2397 ต่อมาในปี พ.ศ 2515 พระครูธรรมสรคุณ หรือหลวงพ่อเขียน เจ้าอาวาสวัดกระทิง เจ้าคณะอำเภอมะขาม ได้บุกเบิกเบิกทางขึ้น ก่อนค่อยๆ พัฒนาเส้นทางขึ้นยอดเขาให้ดีขึ้น และปลอดภัยมาจนถึงปัจจุบัน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 
- วัดกระทิง โทร. 0 3945 2056 
- ที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฎ โทร.0 3945 2074 
- อบต.พลวง กิ่งอำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี โทร.0 3930 9281 - 2